รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดการประชุมฯ แนวทางการดำเนินงานตามกลไกการบริหารการสื่อสาร จชต. SBIC และเยี่ยมชุมชนสองวิถี ที่ ปัตตานี

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ แนวทางการดำเนินงานตามกลไกการบริหารการสื่อสาร จังหวัดชายแดนภาคใต้ SBIC และเยี่ยมชุมชนสองวิถี ที่ปัตตานี

วันนี้ (14 ก.พ.65) ที่ห้องน้ำพราว 2 โรงเเรม ซี.เอส ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ แนวทางการดำเนินงานตามกลไกการบริหารการสื่อสาร จังหวัดชายแดนภาคใต้ SBIC โดยมีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวรายงาน และนายสมนึก พรมเขียว รองผู้ว่าราชการ จ.ปัตตานี กล่าวต้อนรับ โดยมีผู้ร่วมประชุม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แทนส่วนราชการ และตัวแทนจากหน่วยงานในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 20 หน่วยงาน พร้อมถ่ายทอดผ่านระบบประชุมออนไลน์ไปยังส่วนราชการ องค์กรต่างๆ เพื่อลดความแออัดของการจัดงาน ตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับประเด็นความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เน้นย้ำบูรณาการทุกภาคส่วน ร่วมสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนเพื่อให้ประชาชนทุกเชื้อชาติ ศาสนา รู้สึกปลอดภัยภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม การนำกลไก SBIC เข้ามาดำเนินการทุกหน่วยงานต้องร่วมกันขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม ผ่านการบูรณาในทุกภาคส่วน ทั้งทหาร ตำรวจ กรมประชาสัมพันธ์ ศอ.บต. ส่วนราชการ และประชาชน ได้ร่วมกันคิดหาแนวทางเพื่อแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดความสันติสุขในพื้นที่ ลดความสูญเสีย ซึ่งการสื่อสารที่ดี จะส่งเสริมพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ให้สงบสุขในความหลากหลายทางวัฒนธรรรม

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การสร้างความเข้าใจเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างยั่งยืนนั้นเกิดจากการสื่อสาร ซึ่งการสื่อสารในยุคปัจจุบันมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา หน่วยงานของรัฐต้องพร้อมพัฒนาตามให้ทันต่อโลกยุคปัจจุบัน และให้เข้าถึงพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างทุกระดับ

ด้านพลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการบริหารประเทศของรัฐบาล มีการสื่อสารสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านนโยบายและผลการดำเนินงานสำคัญของรัฐบาลแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องตลอดมา ประกอบกับมีความพยายามพัฒนารูปแบบและวิธีการเข้าถึงประชาชน ให้รับรู้ข่าวสารราชการบนพื้นฐานความจริง ผ่านกลไก ID-IA-IR เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชน ในระดับประเทศ เพื่อลดความขัดแย้ง ตอบปัญหาสังคมด้วยความถูกต้องและรวดเร็ว ทำให้เกิดเป็นการนำแนวคิดนี้มาใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านกลไกการบริหารการสื่อสารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ SBIC ซึ่งดำเนินการภายใต้แผนการสร้างความเข้าใจประซาชนทั้งในและนอกจังหวัดชายแดนภาคใด้ ที่กรมประชาสัมพันธ์เป็นเจ้าภาพบูรณาการสื่อสารทุกหน่วยงานให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้หน่วยงานได้แจ้งข่าว ให้ข่าว แก้ข่าวและขยายข่าวให้ประชาชนชนรับรู้ เข้าใจ ได้อย่างถูกต้อง สามารถตอบโจทย์ประเด็นความสนใจของประชาชนในระดับพื้นที่อย่างเจาะลึก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาและเป็นประโยชน์ต่อภาพลักษณ์ที่ดีทั้งของหน่วยงาน ของรัฐบาลและประเทศให้เห็นการทำงานของกลไก SBIC ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น การประชุมในครั้งนี้ จะเป็นการนำเอากลไกการทำงาน SBIC มาบูรณาการทำงานทุกภาคส่วนร่วมกัน โดยนำข้อเท็จจริงจากหน่วยงานรับผิดชอบหรือเจ้าของเรื่องมาชี้แจง สร้างการรับรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและแก้ไขความเข้าใจผิด หรือ FACK NEWS ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านการกำหนดแนวทางและประเด็นที่จะศึกษาร่วมกัน ซึ่งจะสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงทันต่อสถานการณ์ให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้เข้าใจถูกต้อง เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อันจะเป็นการแก้ไข ป้องกันลดความเสียหายจากการบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือ FACK NEWS ต่อพี่น้องประชาชน สู่การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานรัฐและประชาชน ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญในการสร้างสันติสุข และแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และคณะผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์ ได้เดินทางลงพื้นที่ ณ วัดทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ เพื่อเยี่ยมชมชุมชนสองวิถี พุทธและมุสลิม พูดคุยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์จังหวัดปัตตานี ภายใต้การดำเนินงานในโครงการสร้างความรัก ความเข้าใจภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่ง นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชมการอยู่ร่วมกันของพี่น้องประชาชนในชุมชนบ้านทรายขาว เป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ทำให้พี่น้องประชาชนในประเทศไทยดูเป็นต้นแบบ เป็นการสร้างความรัก ความอบอุ่น แสดงให้เห็นถึงความเห็นอกเห็นใจกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอยู่ร่วมกัน 2 ศาสนาที่สำคัญบนโลกใบนี้ก็คือศาสนาอิสลามและศาสนาพุทธที่ต้องอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขอยู่ร่วมกันอย่างพี่น้องจริงๆอยู่ร่วมกันอย่างการเอื้ออาทร มีความเห็นอกเห็นใจกันมีความเข้าใจกันในบทบาทของชีวิตในบทบาทของแต่ละศาสนา และยังถือได้ว่าเป็นการส่งเสียงให้พี่น้องคนไทยทั้งประเทศหรือพี่น้องสามจังหวัดใช้แดนภาคใต้หรือพี่น้องบนโลกใบนี้ได้เห็นถึงความสำคัญการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

Cr สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar